Thursday, January 30, 2014

สามพ่อลูกแบ็คแพ็คตะลุยMalaysia-Singapore ตอนที่ 6 Universal Studio Singapore

วันที่ 6

เวลาเดินไปไวมาก แป๊บๆ 6 วันแล้ว 

วันนี้เราจะใช้เวลาทั้งวันใน Universal Studio Singapore หรือ จะเรียกว่า USS นะคะ 

อชิซื้อบัตรที่ Information Center ที่ Chinatown ค่ะ ใกล้ๆ กับวัด Buddha Tooth Relic หรือวัดพระเขี้ยวแก้วค่ะ ได้มาในราคา 72 SGD หรือ 1,800 บาทไทย ราคานี้รวม ค่าเดินทาง รับจากลานหน้าวัดพระเขี้ยวแก้วไปส่งถึง USS เลยค่ะ แต่แค่ขาเดียวนะคะ ขากลับกลับเองค่ะ อาจจะเป็นเพราะ แต่ละคนไม่มีเวลากลับที่แน่อะค่ะ และยังรวมค่าทานอาหารใน USS คนละ 11 เหรียญ และส่วนลดซื้อของที่ระลึกอีกคนละ 5 เหรียญมั้งคะ จำไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ใช้ด้วย เห่อ 


เนี่ยค่ะ ซื้อตั๋วจากที่นี่ หรือใครมีที่ที่ซื้อตั๋วUSS ได้ราคาถูกกว่านี้เอามาแชร์เพื่อนๆหน่อยนะคะ เพราะอชิคิดว่าซื้อแพงไปอะคะ คิดว่านะ 

รอไกด์มาเรียกขึ้นรถที่ลานนี้เลยค่ะ รถจะมารับสัก 9 โมง USS เปิด 10 โมง 

ใกล้ๆกันนั้นก็มี China Complex อยู่ค่ะ ด้านใน อาหารเพรียบบบ ไม่ต้องกลัวอดตายค่ะ เข้าไปกินโลด จะเหมือนฟูดคอร์ทอะคะ มีหลากหลายให้เลือกทานมา เราก็ฝากท้องฝากไส้กับที่นี่หลายมื้ออยู่ค่ะ 

ขณะรอรถมารับ ก็มองหาอะไรถ่ายเล่นเพลินๆ 

รถมารับแล้วค่ะ เป็นบัส ก็มีฝรั่งมากันเต็มเลย ส่วนใหญ่เป็นแฟมมิลี่ค่ะ มีลูก พาลูกมาเที่ยว อุ้ยย ไอเราเป็นแบบพาพ่อมาเที่ยวซะด้วยสิ อิอิ 

ถึงแย้ว Universal Studio Singapore
สัญลักษณ์ที่ทุกคนที่มาต้องมาถ่าย กะจังหวะดีดีแล้วปรี่เข้าไปเลยค่ะ


ไอเราก็ขอไปถ่ายมั่ง ไปถ่ายใกล้ๆลูกโลกคนมันเยอะ เดี๋ยวจะไม่เด่น เลยจัดเอาแบบนี้ซะเลย เด่นซะ (กว่าลูกโลกแน่ะ ฮี่ๆ)

มาถึง USS ยังไม่เปิดค่ะ เข้าแถวต่อคิวกันยาวเหยียดเลย พอเวลาเปิดเท่านั้นแหล่ะ คนก็วิ่งเข้าไปกัน ไอ่เราเห็นเค้าวิ่งเราก็วิ่งตาม วิ่งได้สักพัก พ่อบอกพอเหอะ แต่ก็ยังสาวเท้าอยู่ อิอิ


พวกเรามีการวางแผนประชุมกันเล็กน้อยเลือก เครื่องเล่นหลักๆ ที่ต้องเก็บก่อน แล้วอันไหนที่น่าสนใจน้อยๆก็รองลงไป 
พอเอาเข้าจริงๆ พวกเราเล่นเครื่องเล่นโดยเดินเป็นวงกลมทวนเข็มนาฬิกา ลองดูในรูปแผนที่ได้ค่ะ แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามสเตปเทพ ทานข้าวเวลา 11 โมงกว่า จึงไม่มีคนแย่งกันหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไปดูโชว์ ที่ Waterworld ทันเวลาพอดี ไม่แน่ใจว่าวันนึงมี 2 รอบ หรือ แค่รอบเดียวนะคะ ใครทราบช่วยมาขยายความที แฮ่ เค้าล้อเล่น


พวกเราเลือกไปเล่น Transformer ก่อนอันแรกเลย ขอบอกว่า สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกก


สำหรับ USS ก็ไม่ค่อยรู้จะรีวิวอะไรดี เอาเป็นว่า อชิเจอปัญหาอะไร จะเอามาแลกเปลี่ยนให้ฟังละกันนะคะ เดี๋ยวจะคัดรูปสวยๆ แต่ละโซนมาให้ชมค่า



อ่อ โซนมัมมี่นะคะ ต้องฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์ค่ะ ไม่เสียตัง



ส่วนโซนนี้ ไปล่องแก่งกัน 

คุณจะเห็นคนส่วนใหญ่ จะเอากระเป๋าไปฝากล็อคเกอร์ บอกเลยว่าไม่จำเป็นค่า ไม่ได้ ล่องคว่ำ ตีลังกา แกว่งชนโขดหินกระจายขนาดน้านนน ล็อคเกอร์ที่นี่ฝากเสียตังค่ะ แล้วก็ไม่ทอนเงินด้วย เจอมากับตัวค่ะ ใส่แบงค์ 5 ดอลล่า จำไม่ได้ค่ะว่า 2 ชม เท่าไหร่ กะให้มันทอนค่ะ ... เศร้าเม่าร้องไห้เม่าโศก

ส่วนซื้อเสื้อกันฝนนะคะ ไม่ต้องซื้อให้เปลืองตังหรอกค่ะ ถ้าไม่อยากเปียกมากๆนะคะ จะบอกว่า หากเรายืนอยู่ที่ Platform ข้างหน้าเราเป็นยานล่องแก่ง (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วแล้ว =_=) ให้นั่งทางทิศ 9 นาฬิกาค่ะ รับรองไม่เปียก(มาก) ส่วนคนที่นั่งทิศ 3 นาฬิกา เตรียมตัวเปียกโลดค่าาา เม่าดี๊ด๊าเม่าดี๊ด๊า

11 โมงแล้ว ทานข้าวกันค่ะ ไม่ต้องรอให้ถึงเที่ยงวันนะคะ คนจะแห่มาทานพร้อมกัน แล้วอะไรๆ ก็จะช้าไปหมดค่ะ 

ร้านอาหารใน USS มีหลายร้านให้เลือกทานเลย อย่างตอนนี้อชิอยู่โซนจูราสสิคปาร์คใช่มั้ยคะ ก็จะมีร้านที่นี่เหมือนกัน แต่เป็นอาหารแนวมาเล้มาเล ค่ะ  ร้านอื่นเห็นมีเบอร์เกอร์ ไก่ทอด อยากกินจุงเบยย เม่าเหม่อเม่าเหม่อเม่าเหม่อ


สอนค่ะสอน  วิธีใช้ตะเกียบ หัก เลย ค่ะป๊า 

มื้อนี้ คนละ 12 เหรียญ มั้งคะ เราก็ใช้ วอยเชอร์ที่เค้าให้ มาเป็นค่าอาหารจ่ายไป 11 เหรียญ แล้วเราก็จะส่วนต่างอีกนิดหน่อยค่ะ มีแถมของหวานด้วย อิ่มแปร้กันเลยทีเดียวเชียว

กินเสร็จ เดินเล่น หาไอศครีมทาน ถ่ายรูป ได้เวลาของ WaterWorld พอดี อะไรจะสเตปเทพปานนั้น อิอิ



ข้อแนะนำ แถวหน้าสุด เหมาะกับ   
             - ผู้ชายไม่กลัวน้ำ
             - ผู้หญิงที่ไม่เป็นวันนั้นของเดือน
             - คนชอบเล่นไฟ   (มันแล่บมาทีนึง ร้อนมากกกก)
             
เป็นอีกอันที่ชอบมากเหมือนกันค่ะ เอฟเฟคแจ่มดี







Light Camera Actions เป็นคล้ายๆ กับ การแสงวิธีการทำเอฟเฟคของสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ผกก ชื่อดังก้องโลกค่ะ 



สถานที่แห่งนี้ เหมาะมากที่แบบว่า ใครมีลูกชวนลูก มีหลานชวนหลานค่ะ เด็กน้อยคงชอบอะไรที่น่าตื่นเต้น 

เครื่องเล่นส่วนใหญ่ก็เน้น สิ่งที่เป็น 4D ให้เราจับ เราสัมผัสได้ มันเจ๋งมากค่ะ 







ช่างน่าเสียดายมาก ที่เครื่องเล่นอันนี้ปิดปรับปรุง เศร้าอ่ะ เครื่องเล่นตัวแม่เลยเนี่ย เม่าโศกเม่าโศก



ไดโนเสาร์ตัวนี้มันขยับได้ด้วยนะ ยืนดูอยู่ตั้งนาน มันขยับได้หลายสเตปเลย  เจ๋งมาก ทำเสียงร้องได้ด้วย  เห็นน้องชายอัดวิดิโออยู่เห็นว่าจะเอามาหลอกแม่  ห้า ๆๆ





ตอนเย็น พวกเราก็พากันกลับโดยขึ้นรถไฟฟ้าของUSS ไปลงสถานี Waterfront 
จริงๆ ก็สามารถนั่งจากสถานี Waterfront กลับที่พักได้เลย แต่ ณ เวลานั้น คนเยอะมาก เพราะทุกคนมักจะออกจากสวนสนุกเวลาเดียวกัน การซื้อตั๋วจากตู้อัตโนมัติที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนซื้อนั้น ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา เลือกที่จะโดยสารรถเมล์แทน (ตลอดเลย)  นอกจากจะต้องรอต่อคิวซื้อบัตรรถไฟฟ้าแล้ว ยังต้องไปเปลี่ยนสาย เดินอีกไกลเลย หากนั่งรถเมล์  คาดว่า (วัดดวง) ต่อเดียว ถึง อิอิ

พวกเราเดินออกมาข้างนอกสถานีวอเตอร์ฟร้อนต์ โชคดีเจอกับสถานีจอดของรถบัส ก็ถามคนแถวนั้นว่าไปไชน่าทาวนั่งอะไรไป ในใจก็คิดว่า จะมีต่อเดียว ผ่านไชน่าทาวเลยรึเปล่าน้า 

ปรากฏว่ามี โชคดีจริงๆ นั่งเบอร์ 80 ไปลงไชน่าทาวน์ได้เลยค่ะ จาก Waterfront Station แค่คนละ 1.3 SGD ค่ะ 


ตรงที่รอรถยัสมีตู้ถ่ายรูปติดบัตรด้วย คุ้นๆ ว่าเคยเจอที่ไหนน้า ลืม ในไทยมีป่าวคะ จำไม่ได้อ่า

พอนั่งรถเบอร์ 80 ก็ไปลงที่ไชน่าทาวเลยค่ะ มันจะลงฝั่งตรงข้ามนะคะ ข้ามสะพานลอยข้ามไปไชน่าทาวน์ได้เลยค่ะ 
นั่งรถสบาย ต่อเดียวถึง ถูกด้วย ดีกว่าไปแออัดกันใน subway 

เย็นนี้ฝากผีฝากไข้ เอ้ย ฝากท้อง ไว้กับ China Complex ค่ะ คืนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่นี่แล้ว 

มื้อนี้ ค่าเสียหาย 35 ดอลล่าค่ะ  

ของหวาน ถ้วยละ 1.5 ประมาณเกือบๆ 40 บาท ซื้อมาทาน 2 ถ้วยค่ะ เห็นเขาบอกว่า ใส่วุ้นว่านหางจระเข้ด้วย อร่อยมากก  อิอิ 

คืนนี้เข้านอนเร็วนะคะ คืนสุดท้าย พรุ่งนี้เช็คเอาท์ ไปสนามบินแต่เช้า 

จากไชน่าทาว ไปสนามบิน เผื่อเวลาสำหรับเดินทางไปด้วยสักหนึ่งชั่วโมงเลยนะคะ 
เดี๋ยวไม่ทัน พวกเราได้ตั๋วเครื่องบิน จากสิงคโปร์กลับดอนเมือง คนละ 2,400 บาท แต่ตั๋วจาก ดอนเมืองกลับเชียงใหม่นี่สิ เพิ่งมาซื้อคืนสุดท้ายตอนอยู่ที่สิงคโปร์ เพราะตอนแรกกะว่าจะนั่งรถที่หมอชิตกลับ แต่เอาไปเอามา พ่อบอกว่าบินกลับเหอะ เลยได้ตั๋วมา คนละ 2,500 บาท  

อ่อ วิธีจองตั๋ว ถ้าเป็นแอร์เอเชีย แล้วไปกัน 2-3 คน อชิจะจองน้ำหนักกระเป๋าไว้คนเดียว ถ้าในประเทศ จะจอง 20 กก และระหว่างประเทศ (สิงคโปร์-ดอนเมือง) จะจองที่ราคาต่ำสุดน่าจะ 25 กก เฉลี่ย ตอนที่จะโหลดกระเป๋า ก็เอากระเป๋าของทุกคนมาโหลดพร้อมกันโลดเลยค่ะ ในน้ำหนักกระเป๋าที่จองไป 25 กก ถ้าเฉลี่ยแล้วก็ตก คนละ 7-8 กก ซึ่งมันก็มากกว่านิดหน่อย หรือ เท่ากับ 25 กิโลกรัมค่ะ ((งง  กัน ปะคะ ))  เชื่อว่า กระเป๋า backpack แต่ละคนที่แบกไว้ที่หลัง คงไม่น่าจะเกินนี้ หรือถ้าเกิน เราเอาไปถือขึ้นเครื่องค่ะ จะได้อีกคนละ 7-8 กก ส่วนใหญ่ เจ้าหน้าที่เช็คอินเค้าก็จะหยวนๆให้ นอกเสียจากคุณจะเจอคนที่เถรตรงและ strict มาก อันนี้ก็ลำบากหน่อย อิอิ


ส่วนใครที่ซื้อน้ำหอมที่ไชน่าทาวน์ สามารถนำใบเสร็จไปแลกภาษีคืนได้ที่แอร์พอร์ทค่ะ 

เป็นยังไงบ้างคะ กับการเดินทางของพวกเรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังศึกษาเส้นทาง แบ็คแพ็คแบบประหยัด ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ นะคะ เพี้ยนแว๊นเพี้ยนแว๊น