Thursday, January 30, 2014

สามพ่อลูกแบ็คแพ็คตะลุยMalaysia-Singapore ตอนที่ 5 สิงคโปร์

วันที่ 5 

มาสิงคโปร์ แต่เรากลับนึกว่าอยู่จีนแผ่นดินใหญ่ซะงั้น snake snake fish fish ไชนีส อะไรก็ว่ากันไป
เป้าหมายวันแรกในสิงคโปร์ที่จะไปเก็บของเรา คือ 
-ไปตามหาMerlion น้อย
-ไปBuddha tooth relic temple
-ไปสัมผัส Fountain of Wealth ซึ่ง อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่ออีกเหมือนกันว่าหากได้ไปอธิฐานแล้วเดินวนสามรอบ ก็จะสุขสมหวัง----อ่านะ ก็ไปก่ะเค้า ฮ่า ๆๆๆๆ ที่เค้าว่าแบบนั้นมันเป็น น้ำพุแห่งนี้ ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นสุดยอดของฮวงจุ้ย แล้วน้ำที่ผ่านออกมาก็มีพลัง Qi ทำนองนี้อ่านะ ก็ไปไป จะได้ มีเงินมีทองกับเขาบ้าง
-ไปMarina Bay ถ่ายรูปกับตึกรูปเรือและ Merlion 
-ไปเจอเพื่อนที่ย่านBugis
-เดินมันทุกซอยกับย่าน Chinatown 

ภารกิจ เสร็จสมบูรณ์ ยิ้ม Mission Completed!!

ลืมบอกไปว่า แม้แต่สิงคโปร์ เราก็พึ่งพารถเมล์กันนะคะ แท็กซี่ก็ไม่ได้แอ้มหรอก ทั้งราคาถูก และได้นั่งชมวิวข้างทางด้วย เพลินๆดีค่ะ 

ส่วนสายรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็สามารถลิ้งค์หากันได้ทุกพื้นที่เช่นกัน แต่ต้องลำบากไปเปลี่ยนสาย ซึ่งเดินไกลมาก คนเยอะแยะมากมายเวียนหัว เพราะฉะนั้น ก็ยังจัดอันดับให้ว่า ประเทศไหนที่อารยธรรมเค้ายังหลงเหลือรถเมล์อยู่ เราก็จะเลือกนั่งรถเมล์หล่ะค่ะ

ตามมาเที่ยวกันเลยค่ะ


อ่อ เมื่อวานตอนซื้อตั๋วรถไปสิงคโปร์ เค้าก้ให้ใบผ่านแดนมาให้กรอกด้วยค่ะ


รถที่นั่งไป สะอาดใช้ได้ รถเก่านิดนึงแต่ไม่มาด์ค่ะ นั่งได้หมด คนขับเป็นคนจีนแก่ๆ 2 คนเปลี่ยนกันขับคนละครึ่งทาง

แวะให้เข้าห้องน้ำทานอาหาร ตอนแรกบอก 10 นาที แต่ เห็นคนขับรถยังนั่งทานข้าวกันอยู่ สรุป เบรครกันไป สัก 30 นาที เลยมั้ง 

สามารถแวะซื้อของฝาก ขนม จากมะละกาได้ที่นี่ค่ะ แต่ขนมบางอย่างก็อิมพอร์ทจากไทยมาก็เยอะนะคะ 

ในร้านสะดวกซื้อ พวกขนมที่มาจากไทย จะขายแพงกว่าบ้านเรามากค่ะ อย่างเช่น ไมโลกล่องเขียวๆ ที่นู่นขายกล่องละ ยี่สิบกว่าบาท กล่องเล็กนะคะ น่าจะไม่ถึง 250 ml เม่าเป็นลม


ฝนตก อ้ากกกกก 

ตอนที่เรานั่งรถจะเข้าสิงคโปร์อะค่ะ ต้องไปสแตมป์เข้าด้วยโดยรถจะจอดเทียบใต้ตึก ให้เราขึ้นลิฟต์ไปชั้นสอง แล้วเข้าไปที่ช่องให้เจ้าหน้าที่สแตมป์พาสปอร์ตเราค่ะ ระวังที่กันที่เป็นคล้ายๆพลาสติกใสอย่างดีนะคะ เพราะอชิพยายามที่จะผลักแต่มันก็ไม่ไป จนเจ้าหน้าที่บอกว่า stop ! แกก็กดปุ่มอะไรสักอย่าง แล้วเครื่องกั้นอย่างดีอันนั้นก็เปิดค่ะ ....เม่าในกองไฟเม่าในกองไฟเม่าในกองไฟ บ้านนอกจุงเบยย

รถมารออยู่ข้างล่างค่ะ ในรถมีชางเยอรมันสองคน ว่างจัดก็เข้าไปทักและคุยด้วย สงสัยว่าทำไมถึงมาเที่ยวสิงคโปร์ ในเมื่อเมืองที่เจริญแล้วอย่างสิงคโปร์ไม่น่าจะเป็นเป้าหมายสักเท่าไหร่ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้วเหมือนกัน

แน่นอนค่ะ พวกเค้าก็ตอบว่า เรามาวันเดียว แค่มาต่อเครื่องกลับบ้านเฉยๆ James please

รถมาส่งใกล้ๆ สถานีรถไฟฟ้าชื่อ Lavender ค่ะ จะว่าใกล้ก็ไม่ไกล้นะ เราโชคดีเดินเข้าไปถามอาม่าที่มาก่ะหลาน แกนำทางเราไปให้ไกล้สถานีลาเวนเดอร์มากที่สุดค่ะ โดยมีเยอรมันสองคนนั้นติดตามมาขึ้นรถไฟฟ้าด้วย 

พอเจอสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินก็สบายละค่ะ เพราะที่พักของเรา ก็ยังเกาะติดอยู่ในย่านเจ๊ก หนอ ซา สี่ อิอิ 
ไม่อดตายค่ะ อยู่ในย่านไชน่าทาวน์


ที่พักหาง่ายมากเลย อยู่บนถนน Smith Street  ค่ะ ช่วงนั้นกำลังก่อสร้างกันนะคะ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรค่ะ


ที่พักชื่อ Royal Hostel ค่ะ  สะอาด เตียงนุ่ม ห้อง 16 เตียง 

ไม่แนะนำนะคะถ้าคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพราะ จะมีคนเดินเข้าออกเกือบทั้งคืนเลยค่ะ ว่าแต่คนอื่นนะคะ เราเองก็ยังกลับมาตี 1 กว่าๆ แน่ะ เค้าล้อเล่นเค้าล้อเล่น



นัดเพื่อนไว้ค่ะ เพื่อนทำงานที่ร้านอาหารไทยอยู่ย่าน Bugis สงสารมัน มาเป็นต่างด้าวใช้งานอยู่สิงคโปร์ปีกว่าละม้าง เรียนด้วยกันที่คณะค่ะ ก่อนไปก็ขอแว้วไป Buddha Tooth Relics Temple หรือ วัดพระเขี้ยวแก้วนั่นเอง ก่อนค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับChinatown นั่นหล่ะค่ะ ไปง่ายมาก แต่ถ้าถามคนแถวนั้น มักจะไม่ค่อยมีใครรู้จัก กว่าเราจะไปถึงวัดครั้งแรกก็หลงเหมือนกันค่ะ  



คาดว่าอากาศคงจะเปลี่ยนแปลงบ่อย เลยทีที่ใส่ร่มกันน้ำหยดลงพื้นให้ด้วยค่ะ

ระหว่างทางจะเดินไปใต้ดินก็เดินเล่น ดูของไปตลอดทางเลยค่ะ 




มาถึงแล้วค่ะ นั่งจาก Chinatown > Bugis Station คนละ 1.5 SGD (x25 = 37.5 บาทไทย) 

มาหาจะให้มันเลี้ยงข้าวไทยค่ะ มันดันสั่งอาหารจีนร้านข้างๆมากิน


นั่งคุยกันสักพักใหญ่ๆ เราก็ขอตัว เพราะเย็นนี้เราจะไปดูตึกรูปเรือ Marina Bay Sand กันค่ะ แล้วก็ไปหา Merlion น้อย อิอิ

ลองมานั่งรถเมล์ในสิงคโปร์กันค่ะ มานั่งรอที่ป้ายรถเมล์หน้าตึกนี้ นั่งเบอร์ 130 คนละ 1.1 SGD 27 บาท ไปถึง Suntec Mall 




บงรถเมล์มาก็ไปเจอกับสิ่งเหล่านี้ 


เดินๆๆๆ เดินมุ่งหน้าไปยังตึกรูปเรือเล้ยย



ในที่สุดก็ได้มาเห็น อิอิ
แล้วก็ยังมีที่ที่อยากไปอยู่ มันคือ Fountain of Wealth นั่นเอง 
อย่างที่บอกค่ะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล การได้ไปสัมผัส Fountain of Wealth ซึ่งมันก็เป็นความเชื่ออะค่ะว่าถ้าหากได้ไปอธิฐานแล้วเดินวนสามรอบสัมผัสน้ำ ก็จะสุขสมหวัง มั่งมีเงินทอง เพราะมัน ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นสุดยอดของฮวงจุ้ยค่ะ แล้วน้ำที่ผ่านออกมาก็มีพลัง Qi อ่าค่ะ อิอิ

หาอยู่นานมากค่ะ งง มาก ทำไมคนแถวนี้ไม่รู้จัก ถามอยู่หลายคนเลย เค้าบอกไม่รู้จักกัน บางคนก็ชี้ไปที่มาริน่าเบย์แซนด์อ่ะนะ เราก็มองๆหาในแผนที่ อ่อ พอเจอแล้วก็เดินปรี่ไปเลยล่ะค่ะ ลากพ่อก่ะน้องชายไปด้วย 


สุดท้ายก็เจอจนได้ ต้องเข้าไปในห้างก่อนค่ะ มันอยู่ตรงกลางห้างเลย




เค้าจะมีช่วงเวลาให้เข้าไปสัมผัสน้ำพุได้เป็นช่วงค่ะ ตอนไปตอนนั้นน่าจะรอบ สามทุ่มมั้ง ไม่แน่ใจ 

พอสัมผัสจนเปียก ชุ่ม ไปหมดแล้ว ก็คิดอยากจะไปเจอเมอไลอ้อนน้อยค่ะ ก็คือ กลับไปที่มาริน่าเบย์ ตะเกี๊ย ที่เพิ่งเดินมา 

ทริปนี้ ขาลากของจริงค่ะ มีใครอยากสมัครมาเป็นลูกทัวร์แบ็คแพ็คนรกบ้างคะ คุ้มสุดๆไปเลยนะคะ ฮ่า ๆๆ


ขากลับเราก็เจอวิวสวยๆ อะไรก็ถ่ายเล่นไป เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของการไม่ไปกับทัวร์นะคะ ปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ตลอดเวลา ควบคุมค่าใช้จ่ายได้เอง อิอิ

เอาซะหน่อย

จัดไปสามพ่อลูกแบ็คแพ็ค อิอิ

ตึกรูปหนามทุเรียน หรือ Esplanade นั่นเอง อิอิ

ในที่สุดก็เดินมาถึง Merlion Park จนได้ แฮ่กๆ 

เจอแว้ว เมอไลอ้อนน้อย





เห็น ผู้หญิงคนใส่เสื้อขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นคนนั้นมั้ยคะ สักพักตอนอชิถ่ายรูปเสร็จแกก็มาขอให้อชิถ่ายรูปให้เขาหน่อย 
คุยไปคุยมา เขาบอกว่า มาจากปักกิ่ง มาเที่ยวคนเดียว เยี่ยม แต่สิงคโปร์กับมาเลเซีย คนจีนมาเที่ยวได้สบายๆอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่ใช้ภาษาจีนสื่อสารกันค่ะ 

ก็เลยขอให้เค้าช่วยถ่ายรูปให้พวกเราด้วยซะเลย อิอิ



วันนี้เดินกันมาทั้งวัน ปวดเท้ามากค่ะ ไม่ได้ใส่ผ้าใบเพราะอยากสวยบ้างวันนึง เดี๋ยวจะไม่เข้าชุด 
พวกเรากลับกันประมาณ สี่ทุ่มกว่าๆ ค่ะ นั่งใต้ดิน สถานี City Mall กลับ Chinatown ค่ะ คืนนี้ เที่ยงคืนมีนัดกับเพื่อนอีกรอบ เพื่อนเลิกงาน ห้าทุ่มกว่าๆ ค่ะ 

เพื่อนมาหาที่ไชน่าทาวน์แล้วก็พาไปกิน ข้าวต้มกบ James please

เจ้าถิ่นมากินบ่อย เลยรู้ว่าอะไรอร่อย  สรุปกินแล้ว อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ  ฟินจนน้ำตาจะไหลเม่าดี๊ด๊าเม่าดี๊ด๊า

ที่บอกว่าข้าวต้มกบ ไม่ใช่ เอากบมาต้มกับข้าวนะ แต่เป็นกบที่เอามาผัดซอสหล่ะมั้งคะแล้วเอามาอบในหม้อดินอีกที กบตัวอ้วนมั่กๆ ไม่อยากบอกเลยว่า อยู่ไทยไม่เคยกินกบเลยค่ะ เคยกินแค่ครั้งเดียวเพราะโดนหลอกว่าเป็นไก่ ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่สองหล่ะมั้ง แต่อร่อยมากกกกก เนื้อนี่น่องโต นิ่มมากก อาหารอย่างอื่น ใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ สรุปว่าคืนนี้ก็กลับห้องก็เกือบตีหนึ่ง พรุ่งนี้มีนัดไป USS หรือ Universal Studio Singapore ค่ะ ตื่นเต้นจริงๆเลย คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ เม่าบัลเล่ต์เม่าบัลเล่ต์

No comments:

Post a Comment