Friday, September 26, 2014

ไปวิ่ง ไปเที่ยว อันเดียวกัน @The Singha Trail Running Festival 2014 ไร่บุญรอด เชียงราย

วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่ไร่บุญรอด จังหวัดเชียงรายได้จัดงานวิ่งเส้นทางธรรมชาติขึ้น 
ซึ่งมีตั้งแต่ Fun run ระยะวิ่งที่ 3กิโลเมตร 
มีออฟโรด 10 กิโลเมตร  และ 
ออฟโรด 21 กิโลเมตร

(CR.ภาพจากบริษัท แอคทีฟ แมเนจเม้นท์ เอเชีย จำกัด)
ดูจากที่ทางผู้จัดได้โฆษณา สรุปได้ว่าประมาณนี้
"ระยะวิ่ง 21 กิโล นักวิ่งจะได้เห็นทิวทัศน์และบรรยากาศของเส้นทางวิ่งที่แตกต่างออกไปจาก 10 กม.  "
เห็นกระนั้น เลยจัด 21 โลเลยค่ะ 
การตลาดดีนะ ชวนเชื่อสำเร็จๆ สำหรับคนชอบเที่ยวอย่างเรา เค้าล้อเล่น

ทั้งๆที่ตอนแรกก็ใจไม่กล้าพอ เลยโอนเงิน 450 บาท สำหรับระยะวิ่ง 10 กิโลเมตร 
แต่พอวันไปรับเสื้อและเบอร์ติดเสื้อวันที่ 19 ก่อนวันแข่งขัน 1 วัน ดูเส้นทาง เละๆ ยี้ๆ แบบนี้ 
เลยขอจัด 21 กิโลไปเลย เห็นละน่าจะมันส์ อุตส่าห์มาตั้งไกล 

บอกตามตรงว่า เราไม่ได้เป็นนักวิ่ง หรือเป็นคนมีวินัยในการซ้อมมากมายอะไร 
ส่วนใหญ่จะไปวิ่งที่สนามกีฬากลางจังหวัด 1 วัน ละหายไปสัก 3-4 วัน แล้วมาวิ่ง หรือบางทีก็โดดเป็นอาทิตย์เลย 
เรียกได้ว่า สมัครมาเล่น จริงจัง เค้าล้อเล่นเค้าล้อเล่น
ด้วยความที่อยากรู้มันเป็นยังไง และคิดว่ามันน่าสนุก ดูแอดเวนเจอร์ดี
ครั้งนี้ จึงเป็นการวิ่ง Trail (แบบอ๊อฟโรด) เป็นครั้งแรกในชีวิต 

โปรไฟล์การวิ่งของ จขกท เหรอคะ
นอกจากซ้อมวิ่งปกติ 3-4 โล เป็นเวลามา 2 ปีกว่าๆแล้ว
8-10 โลนี่แทบไม่บ่อย น้อยมากที่จะวิ่งถึง 10 โล 
เคยลงวิ่งงานแรก และงานเดียวก่อนจะถึงงานสิงห์ เป็นมินิมาราธอน 10.5 กม วันรพีที่จังหวัดเชียงใหม่ ไปคนเดียวแบบไม่สนโลก 
เค้ามีซุ้มน้ำมันมวยให้ทา ก็ไปเนียนๆทาก่ะเค้า 
แจกอาหารฟรีก็ไปทานก่ะเค้า ไปไหนคนเดียวเมื่อไหร่ เนียนได้ตลอด เม่าดี๊ด๊า

แล้ว 21k ของเรา จะไหวไหมเนี่ย


ออกเดินทางมาถึงเชียงรายวันที่ 19 ก่อนวันวิ่ง 1 วัน 

แวะไปเอาเบอร์ติดเสื้อ และเสื้อที่ไร่บุญรอด 
จึงได้สิ่งของเหล่านี้มา หลังจากจ่ายเงินไป 550 บาท สำหรับลงวิ่งtrail 21k 

หมวกไม่ใช่นะคะ เอาประดับเฉยๆ เห่อๆ 

มีสบู่อีกก้อนที่เค้าให้มา ก้อนใหญ่มว้ากกก 
งง ทำไมให้สบู่ ก็คิดว่าเป็นของที่ระทึกจากทางไร่ปกติ

อ่อ ที่มั่นใจและตัดสินใจลง 21k เพราะว่า มีรุ่นน้องคนนึง เรานับถือเค้าเป็นโค้ชเราเลยหล่ะ
ไม่เคยเจอหน้ากัน แต่เขารู้ว่าเราจะไปลงวิ่ง เค้าส่งไอเทมมาให้ลองใช้ 3-4 อย่าง
ซึ่งน้องชายอชิจะบินมาลงเชียงรายเพื่อทำงานในวันแข่งพอดีเลย ตอนเที่ยง (แข่งบ่าย 14:30 น.) 
โค้ชเลยส่งของผ่านน้องชายมาให้อีกที รอลุ้นกันว่าจะได้ใช้ในการวิ่งเทรลครั้งนี้ไหม


พอรับของที่ระลึกจากงานเสร็จพวกเราก็แวะถ่ายรูป ชิลๆกัน




จับแม่มาเป็นนางแบบซะเลย


ใกล้มืดแล้วก็หิวด้วย 
ก็เลยตัดสินใจกันเข้าเมืองเชียงราย เพื่อที่จะไปพักบ้านญาติในเมืองค่ะ 

คืนนั้น ฝนตกหนักมาก ทั้งคืนเลย 
ในใจก็หวั่นๆ เห้ย รองเท้าจะจมโคลนมิดเลยมั้ย วิ่งๆ น้ำจะกระเด็นติดเสื้อไหมเนี่ย คิดไปต่างๆนาๆ แบบฮามาก เพราะไม่เคยวิ่งเทรลค่ะ
แต่ก็นอนหลับไป ทุกทีจะตื่นเต้น แต่เพราะขับรถจากบ้านลำพูนออกมา 3 ชั่วโมง ทั้งเหยียบทั้งเกร็งกลัวไร่บุญรอดจะปิด 
เราไม่อยากไปเอาของในวันแข่ง เลยต้องรีบบึ่งไปเอาให้ทันเวลา 5 โมงเย็น ก็คงจะเพลียและหลับสบายไปเลย 

ตื่นมาอีกที ตอน 7 โมงเช้า 
เห็นเสื่อโยคะของป้า เลยยืมมายืดๆเส้นสักหน่อย
ในใจก็คิดว่า แข่งตั้งบ่ายสอง คนอื่นๆจะทำอะไรกันอยู่นะ 

อารมณ์เหมือนจะแอดมิสชั่น แล้วอยากเผือกว่าคนอื่นเค้าทำอะไรกันอยู่ จะซ้อมวิ่งกันไหม ทำอะไรยังไงกัน
เลยไปตั้งกระทู้ถาม "คนที่เข้าร่วมงานสิงห์เทรลรันนิ่งเฟส2014ที่เชียงราย กำลังทำอะไรกันอยู่คะ"
http://pantip.com/topic/32603607
ปรากฏว่าไม่มีคนสนใจ เต่าเอือม
เลยไม่ได้เผือกเลย ว่าเค้าทำอะไรกันอยู่ มีการเตรียมตัวก่อนลงวิ่งยังไง 

เช้านี้ก็มาลุ้นค่ะ ว่าน้องชายจะเอาของมาให้ทันเวลาเราขับรถไปไร่บุญรอดป่าว 

น้องชายลงเครื่องเที่ยงค่ะ นัดเจอกันที่ Central Plaza Chiangrai 
เรื่องที่กังวลก็เกิดขึ้นค่ะ มันเอาของมาให้เราไม่ครบ 
ของที่น้องจากกทม. ส่งมาให้ต้องมี
-ที่รัดน่อง 1 คู่
-เข็มขัดรัดเอว สำหรับติดป้ายชื่อและใส่มือถือ
-เป้น้ำ และ
-กระติกน้ำ 

น้องชายลืมเข็มขัดรัดเอวค่ะ อยู่ในรถ แล้วรถคันนั้นพนักงานก็ใช้ขับกลับไปทำธุระที่บ้าน
โอยตายๆๆๆๆ จะทำยังไงดี เค้าให้ไปถึงก่อนวิ่งสัก 30 นาที 
ตอนนั้น เวลา บ่ายโมงแล้ว เลยตัดสินใจไปเอาที่บ้านของพนักงานคนนั้นทันที 

สุดท้ายก็ได้ไอเท่มมาครบ 4 ชิ้นเลย




เราไม่ได้ถ่ายที่รัดน่องไว้ค่ะ ขอใช้รูปภาพจากGoogleประกอบนะคะ
ตอนเห็นที่รัดน่องครั้งแรกแทบกรี๊ดค่ะ เค้าส่งสีขาวมาให้ยืม 
เม่าตกใจเม่าตกใจ
คิดเหมือนกันไหมคะ ว่ามันต้องเปลอะ 
แต่น้องเค้าบอกว่า ให้สนุกเต็มที่ 
เออ ได้ เอาไงเอากัน



มาทันเวลาพอดีค่ะ 
ก่อนปล่อยตัวสัก 10 นาที 
ไอเราก็จัดเตรียมใส่ที่รัดน่อง ลองของนั่นนี่พร้อม แล้วก็เลือกว่าจะใช้ชิ้นไหนดี

เลือกมา 3 ชิ้น 

เนื่องจากเป็นการวิ่งเทรล และจะใช้ไอเท่มพวกนี้ครั้งแรก เรากลัวจะไม่คุ้น 
เลย เลือกเอาที่เบา และสบายตัวก่อน เป้น้ำ ยังไม่เคยลองใช้ และซื้อของกินใส่ไม่ทัน เลยไม่เอาไปค่ะ 

ก่อนจะปล่อยตัว
เค้าให้เข้าไปฟังกติกาการวิ่งที่ลานหน้าบ้านแดงในไร่บุญรอด
เค้าบอกว่า ระยะ 21k ถ้าวิ่งมาถึงจุดที่ 11 km และใครที่มาเกินเวลา 16:30 น. จะถูก cut off 
ลางสังเห่ามันบอกละ ว่าต้องโดนแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร เราจะวิ่งไปชิลกับบรรยากาศไป
สมัครเล่นอย่างเรา อย่าไปซีเรียส 
(พูดปลอบใจตัวเอง มาคนเดียวนี่ ไม่มีใครปลอบ อมยิ้ม07 )


ได้เวลาปล่อยตัวแล้ว สำหรับผู้สมัครวิ่ง 21k


เห็นพี่ๆส่วนใหญ่ ที่เค้าใส่เป้น้ำ ใส่กางเกงยืดเทพๆไรนั่นแล้วรู้สึกว่า เห้ย มาผิดงานปะเนี่ย
ดูชุดเราสิ เหมือนจะไปแข่งวอลเล่บอล เต่าเอือมเต่าเอือม ไม่ได้จริงจังอะไรเลย
มากับใจล้วนๆ 

ช่วง 1-2 กิโลเมตรแรก จะเป็นทางลงเขา ไม่ชันมาก แต่ทางเละค่ะ 
มีลื่นล้มไปแล้ว 2 =_= อิชั้นจำได้ เห็นกับตา 
วิ่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเกร็งเท้าด้วย เอิ่มมมม

แล้วก็มาเป็นทุ่งนาเขียวๆทางแคบๆแบบนี้ วิ่งได้แค่ทีละคน 



วิ่งมาเรื่อยๆ ๆ เรื่อย ๆ 
แซงกันไป แซงกันมา 
ความเหนื่อยเริ่มบังเกิด แต่ก็ยังไม่หยุดวิ่ง เพราะกลัวจะร้างท้าย 
(ยังมีจิตสำนึกในการสมัครมาวิ่งอยู่บ้าง) 

พอมาถึงกิโลเมตรที่ 5 หรือ 6 เนี่ยแหล่ะ 
โอ้แม่เจ้า 


ทุกท่านที่มาถึงจุดนี้ ไม่ว่าจะวิ่ง 10k 21k ต้องมาเจอและคงจะทำหน้าเหวอแบบนี้ทุกคน 
(ไม่แน่ใจว่า fun run 3k จะเจอหรือไม่)

ด้านหน้าเป็นแอ่งน้ำ สแกนดูจากคนข้างหน้าที่ลุยกันไปแล้ว น้ำอยู่ระดับ ต้นขาอ่อน เลยเข่าขึ้นไป 
อชิ หยุดกึก คิดอยู่นานเลย 
ปลอกรัดน่องก็ยืมเขามา 
สีขาวอีก แม่มมม 
ถ้ารองเท้าเปียก เราจะวิ่งต่อได้อีกเท่าไหร่กัน มันต้องหนักแน่ๆ 

เป็นคนที่ใช้เวลาคิดอยู่ตรงนั้นนานมากๆ จนมีคนวิ่งผ่านแซงไปกันหลายคนเลย
บางท่านลุยไปเลย ... อันนี้ก็คิดจะทำอยู่ ถ้าไอ่ปลอกรัดน่องราคา1000 กว่ามันเป็นของเรา 
ในใจก็คิดถึงคำพูดคนให้ยืม "สนุกเต็มที่เลยพี่" 
ความคิดมันสวนกัน ไปมา 

ตัดสินใจถอดปลอกขา ถุงเท้า และใส่รองเท้าลุยน้ำ

เพื่อ !!??? 

เดินผ่านน้ำมาเสร็จยังคิดว่า กลัวรองเท้าหนักละแม่มใส่รองเท้าลุยน้ำมาอีก แล้วถุงเท้าจะถอด เพื่อ!!
เพราะขึ้นจากน้ำมาก็สวมมันกลับไปอย่างเก่า ถุงเท้าก็ดูดน้ำจากในรองเท้านั่นแหล่ะ 
คิดแล้วก็ขำ 
เป็นคนชอบตัดสินใจอะไรผิดๆ ตลอด ฮาาาาาา 

ตัดภาพไปตอนลุยน้ำ 

ท่านนี้คงเป็นมนุษย์วิ่งกลุ่มแรกๆ ที่เข้าเส้นชัยและทำเวลาได้ดี (ขออนุญาตคนที่แชร์ภาพนี้แล้วค่ะ) 

ส่วนเราก็ตึ๋งหนืดเหมือนเดิม ชมนกชมไม้ 
( CR. นิตยสาร Refill ด้วยค่ะ ขออนุญาตแล้วเรียบร้อยกับทาง FB Fanpage)



เสียเวลากับตรงนี้ไปเยอะเลยค่ะ

พอยกพลขึ้นบกเสร็จ ก็ต้องมาใส่ที่รัดน่อง ซึ่งมันรัดมากๆ และใส่ยากมากเมื่อขาเปียกน้ำ
ใส่ถุงเท้า ล้างรองเท้ากับแอ่งน้ำข้างๆ กว่าจะเสร็จ กินเวลาไปหลายนาทีเลย 
ปลอบตัวเอง ไม่เป็นไร 
แล้วก็วิ่งต่อไป 




มาถึงทางแยกแล้วค่ะ 
สำหรับ 21k ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปเลย 
10k ซึ่งปล่อยตัวเวลา 15:30 ก็คงตามมาติดๆ ให้เลี้ยวขวาไปจ้า


มีช่วงนึง ที่จะเป็นทางขึ้นเขาอย่างเดียว เป็นไร่ชา สองสามม่อน ขึ้นอย่างเดียว ติดกัน 
สปีดไม่ได้ค่ะ เทรคอย่างเดียว
อากาศเหรอ!!?
ร้อนแดดเปรี้ยงเลยค่ะ

สังเกตดูแล้ว แทบไม่มีคนใส่เสื้อกล้ามมาวิ่งเลย นอกจากเราและฝรั่ง 
ผู้หญิงท่านอื่นจะใส่ปลอกแขนบ้าง เสื้อแขนยาวบ้าง 
ผู้หญิงคนอื่นๆอาจจะมองว่าเราบ้าไปแล้ว 555555


สวยมากจริงๆค่ะ 
ถ้าไม่ได้มานี่คงเสียใจมาก 



ไม่มีใครบังคับคุณให้วิ่ง คุณจะเดินชิลแค่ไหนก็ได้ ผ่านน้ำตก แวะเล่นน้ำกับแฟนกับเพื่อนก็ได้ 
บังเอิญว่าไปคนเดียว ขอชมนกชมไม้ ไปละกัน แหะๆ 


ในงานจะมีตากล้องจากหลายสำนักมาเก็บภาพค่ะ
เห็นว่า ถ้าสมัครสมาชิกนิตยสารรีฟีล จะได้ภาพ canvas ของตัวเองฟรี ด้วย น่าสนมากๆค่ะ 

ขึ้นมาจุดนี้ สูงสุดของไร่ชาม่อนนี้แระ 
เหนื่อยแค่ไหน เจอกล้องก็ยิ้มด้ายยยยยยยย 

ตอนนี้ กิโลเมตรที่ 7-8 แล้วมั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด



ช่วง กิโลเมตร ที่ 8-9 เป็นช่วงขาขึ้นอีกรอบค่ะ
ไม่ได้ดวงดี ถูกหวย ได้โชค เลื่อนตำแหน่งอะไร 
แต่ ทางชันมว้ากกกกกกกกกกกกกก ขึ้นอย่างเดียว

ตอนนี้ เหมือนโลกนี้มีแต่เรา เรา และเรา ท่ามกลางป่าเขา กว้างใหญ่ 
เพราะเค้าไปกันหมดแล้ว ทิ้งห่างไปซะไกลเลย

ดงสับปะรดผ่านไป เจอดงข้าวโพด ทุ่งนา บ้านคน 
วิ่งไปเจอวัวที่กำลังกินหญ้า เห้ย เราใส่เสื้อสีส้ม มันคงไม่นึกว่าเป็นสีแดงหรอกนะ แถมทำท่าจะเดินมาหาด้วย
คนเลี้ยงวัวเลยตะโกนเรียกชื่อ วัว แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรนะ แล้วตะโกนมาบอกเรา 
แหมมม เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ มันชอบผู้หญิงงง 

อุ้ยตาย 
รักไม่มีพรมแดน 

นี่ถ้าไม่เอามือถือจับเวลาและระยะทางการวิ่งนะ จะเอาออกมาถ่ายรูป รัวๆ ค่ะ 
อยากแขวน DSLR ไปด้วย บอกเลยยย ยอม 
วิวมันสวยมากๆ ก็วิ่งแบบเพลินๆอะนะ 
วิ่งพลางคิดในใจว่า เห้ย เส้นทางพวกนี้อะ มันไม่ได้มากันได้ง่ายๆนะ ต้องมาวิ่ง ถึงจะเห็นล่ะเอ้อ 

มีกำลังใจขึ้นหน่อยก็วิ่งต่อปายยยย 



ภาพประกอบที่ได้มา มาจากหลายสำนักค่ะ ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย 
ภาพสวยทั้งนั้นเลย โชคดีฝนไม่กระหน่ำลงมาอีก คงเละทั้งตัว 

ไอ่เราไม่ได้เอามือถือหยิบขึ้นมาถ่ายเอง 
ยังคิดหวังในใจว่า หนูฝากความหวังไว้กับทุกคนเลยนะ พี่ๆตากล้อง 
กลุ่มชมรมวิ่งต่างๆ ฮี่ๆ อยากได้ภาพบรรยากาศมาก 

เส้นทางบางช่วง คิดในใจว่า
มันทางรถไถชัดๆ ต้องวิ่งขอบๆค่ะ เดินเหยียบลงไปตรงกลางต้องดึงขาออกมาไม่ได้แน่ๆ ฮาาา


และแล้วก็มาเกือบถึงกิโลเมตรที่ 11 
เห้ย ครึ่งทางแล้ว เราทำได้ แต่ดูเวลา ใช้เวลามากไปไหมอชิ 
สองชั่วโมงแล้ว 
ปกติ วิ่ง 1 ชั่วโมง จะใช้เวลาแค่ 1ชั่วโมง - 1 ชั่วโมง 20 นาที แต่ครั้งนี้ 10 กิโล ปาไป 2 ชั่วโมงง 

แต่ไม่เป็นไร สู้อยู่แล้ว 
ไม่ได้คิดถึงเรื่องล้มเลิก หรือ อะไร
แต่ระหว่างทางเห็นมีบางคนที่ เท้าแพลง ต้องออกกลางครันก็มีค่ะ เกิดอุบัติเหตุ ลื่นล้ม ต้องเดินไปหาเจ้าหน้าที่แต่ละจุด 

ก่อนมางานนี้ ทุกคนห้ามเราว่า อย่าลงเลย 21 โล เท่ากับวิ่งจากบ้านไปเชียงใหม่เจ้า เลยนะ 
แต่เราบอกแค่ว่า ตามใจตัวเองล้วนๆเลย ได้ก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องไปให้ถึงไม่มีทางล้มเลิกแน่นอน 

แต่เรื่องนี้มันดันหักมุมตรงที่ 
เราไปถึง กิโลเมตรที่ 11 ตอนเวลาประมาณ 16:30 พอดี 
เค้า cut เรา off  อย่างน่าเศร้าที่สุด

จะมีคนที่เกือบผ่านเข้าไปต่อ ทัน สัก 3-4 คนได้ แต่เค้าก็ไม่ให้ไปต่อ 
คาดว่าคนสุดท้ายก่อนจะ cut off นั้น คงทิ้งห่างไปไกลแล้ว
แต่กติกาก็ต้องเป็นกติกา
เค้าบอกว่า ถ้าวิ่งไปอีก อาจจะมืดและไม่ทัน
คนที่เหลือต้องขึ้นรถกลับค่ะ 

อารมณ์เหมือนเป็นผู้แพ้ เม่าสงสัย
เลยซัดน้ำเกลือแร่ซัลโวของสิงห์เค้าไป 2ขวด กับน้ำเปล่าอีกขวดเลยค่ะ ช้ำใจ ห้าๆๆๆๆๆ


ข้ามน้ำตรงนี้ไปก็เป็น กม.ที่ 11 ละค่ะ 

พอรถมารับเสร็จ ส่งใกล้จุด Finish ก็ต้องวิ่งเข้าเส้นชัยไปรับเหรียญ 

เม่าเหม่อเม่าเหม่อเม่าเหม่อ
เข้าใจความรู้สึกเราไหม 
ไม่เป็นไรยังยิ้มได้ อิอิ


แต่ it's not the end of the world ค่ะ 
เราสูบวิวข้างทางอิ่มมากๆ 
และจะกลับไปใหม่กับ สิ่งเก่ง แกร่ง กล้า 30 พ.ย.นี้ 
ต่างกับงานนี้ที่มีสิ่งกีดขวาง ด่านต่างๆ เพิ่มขึ้น 


กลับมาบ้านญาติที่เชียงราย และเช็คสภาพตัวเอง
สิ่งนี้มันยังเรียกว่าที่รัดน่องแสนแพงอยู่ไหม 
เต่าเอือมเต่าเอือม

บางคนอาจสงสัย ทำไมไม่ซื้อเองหล่ะ
1 ลำพูน - เชียงใหม่ หาซื้อยากมากค่ะ คู่นึง 1,600 บาท และไซต์ T1 ของเรา เหลือแต่สีแดงค่ะ ซึ่งผู้บริโภคที่ตามใจตัวเองสุดๆอย่างเรา จะเลือกของที่ชอบที่สุดเท่านั้น
2 ในเน็ตและใน กทม ถูกกว่ามาก แต่ของบางชิ้นเช่น เข็มขัดรัดเอว น้องที่จะสั่งให้เขาบอกว่า ของหมด ต้องรอก่อน 
3 ของเหล่านี้ ไม่เคยใช้มาก่อน และเพิ่งติดตาม เข้ากลุ่มชมรมวิ่งต่างๆ และเพิ่งเห็นว่าพี่ๆเค้าใช้กัน ยี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้ จึงอยู่ในช่วงศึกษาหาข้อมูล
แต่วันวิ่งมันมาเร็วเหลือเกิน น้องเค้าเห็นใจ จึงส่งมาให้ยืม ต้องขอบคุณมากๆจริงๆ


จบแล้วค่ะ รีวิว
ขอบคุณทุกคนที่เชียร์และให้กำลังใจ
แต่ดันหักมุมตอนสุดท้ายว่า วิ่งไม่ถึง TT
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


No comments:

Post a Comment